จากการเข้าศึกษาสาขาสหวิทยาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร สิ่งที่ได้คือการเรียนรู้ท้องถิ่น การพัฒนาท้องถิ่น ด้านการพัฒนาชุมชนด้วยเศรษฐกิจพอเพียง ด้านธรรมะ ด้านสุขภาพชุมชน เป็นต้น มีรายวิชาหนึ่งที่สอนการพัฒนาบุคลิกภาพตนเอง การเข้าใจตนเอง เพื่อปรับเปลี่ยนจุดดำของตนเองให้มีจุดเปลี่ยนที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านอารมณ์ ด้านการไม่ขยัน ด้านการฟุ่งเฟ้อ หรือด้านไม่ดีต่างให้มีการพัฒนาให้อ่อนโยนมากขึ้น นั้นคือวิชา สปช. 1-2 -3 ในการเรียนวิชา สปช. 1 ที่ผ่านมาเทอมที่แล้ว เนื้อหามุ่งเน้นการพัฒนาบุคลิกภาพภายนอก ทั้งด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม ในการทำโครงงานเพื่อพัฒนาตนเอง และเทอมปัจจุบัน คือ 1/2552 ได้ศึกษา สปช.2 เป็นการศึกษาพัฒนาตนเองจากภายในของตนเอง เช่นด้านอารมณ์ ด้านตระหนี่ ด้านการไม่ขยันคือความเกียจคล้านต่างๆ ด้านการไม่รับฟังเหตุผลคนอื่นเอาความคิดตนเองเป็นใหญ่เป็นต้น แล้วนำเสนอโครงงานตามแบบฟอร์มของรายวิชาที่จัดทำขึ้น เป็นรายวิชาที่ชอบ เพราะกระบวนการสอนและการทำโครงงานมุ่งรังสรรค์ตนเองให้มีจิตสำนึก หรือเรียกว่า การละลายพฤติกรรม หลวงพี่ได้จัดทำ
โครงงานเรื่องปรับอารมณ์ร้อนและโกรธของข้าพเจ้า
หลักสูตรศิลปศาสตรบันฑิต สาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
วิชา การสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตและงาน 2
แบบเสนอหัวข้อโครงงานพัฒนาบุคลิกภาพ
ศูนย์เรียนรู้ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ศูนย์หนองเรือ จังหวัด ขอนแก่น
1. ชื่อโครงงาน ปรับอารมณ์ร้อนและโกรธ ของข้าพเจ้า
2. ชื่อผู้เสนอโครงงาน พระรังสรรค์ พิมพ์ช่างทอง รหัสประจำตัว 5030123101760
3. ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน/ผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้คำแนะนำปรึกษา(ต้องเป็นผู้ที่นักศึกษาขอให้ช่วยจริง และมีบทบาทจริงในการช่วยประเมินความก้าวหน้าในการพัฒนาตนของนักศึกษา)
1. อาจารย์ราชิต วงษ์ชมพู
4. ความเป็นมาของโครงการ
ปัจจุบันการทำงานหรือการพบปะผู้คนทำให้มีการกระทบกระทั้งกันเกิดขึ้นเนื่องด้วยสามารถความเอารัดเอาเปรียบความไม่ลงรอยกันในเรื่องงานหรืออะไรก็ตามย่อมเป็นผลให้เกิดความโกรธ กันขึ้นมาได้แน่นอนถ้าไม่ระงับความโกรธกันได้ผลเสียของความโกรธย่อมส่งผลรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอนและจะทำให้เกิดโรคภัยต่างๆตามมาอย่างไม่หยุดหยั่งถึงขั้นเป็นโรคจิตเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากต่อตนเองและบุคคลรอบข้าง ดังนั้นจึงอยากทำเรื่องการปรับอารมณ์ตนเอง ให้เกิดความสมดุลทางด้านจิตใจ และร่างกายและจะทำตนเองมีเมตตาต่อตนเองและกับคนอื่นมากขึ้นอีกด้วย
4.1 ข้าพเจ้าพบว่าตนเองมีบุคลิกภาพประเภท (ระบุสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์) หมี
ซึ่งจัดอยู่ธาตุ ดิน ข้าพเจ้ามีจุดแข็ง คือ ชอบธรรมชาติ และคิดดีต่อบุคลอื่น แต่มีจุดอ่อน คือ ทนต่อสิ่งยั่วยุไม่ได้
4.2 สิ่งหรือเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่าข้าพเจ้าเป็นอย่างในข้อ 4.2 คือ จิตใจที่อ่อนโยนของตนเอง .ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงทำโครงงานนี้ เพื่อให้จุดอ่อนในข้อ 4.2 ของข้าพเจ้าลดลง โดยได้คิดคำขวัญหรือปณิธานสำหรับตนเองเพื่อการนี้ว่า โกรธคือโง่โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่าไม่บ้าไม่โง่
5. จุดประสงค์เฉพาะของโครงงานของข้าพเจ้า คือ (เขียนให้สัมพันธ์กับข้อ 4.3 โดยเขียนสิ่งหรือเหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจงที่จะบ่งชี้สภาพที่ตรงกันข้ามหรือเปลี่ยนแปลงไปจากข้อ 4.3 เพื่อใช้ในการประเมินโครงงาน)
สร้างกรอบความรู้เพื่อศึกษาผลหรือลดอารมณ์โกรธ โดยศึกษาหลักธรรมะ
แล้วนำผลของความรู้ มาปฏิบัติ เพื่อปรับเปลี่ยนตนเอง
6. เริ่มดำเนินการวันที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ. 2552 ถึงวันที่.30 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
7. หลักวิชาหรือแนวคิดที่นำมาใช้การทำโครงงาน หลักธรรมะของพระพุทธศาสนา
8 . วิธีการและขั้นตอนการดำเนินการ
1. สร้างกรอบความรู้ ตามหลักวิชาการ และทางพุทธศาสนา 2. ตารางการปฏิบัติ 3. การประเมินผล 4. แบบสอบถาม 5. สรุปผลการปฏิบัติ 9.ประโยชน์ที่ข้าพเจ้าคาดว่าจะได้จากโครงการนี้คือ
1. ข้าพเจ้ามีบุคลิกภาพดีขึ้น
2. ข้าพเจ้ามีหลักธรรมะในใจ
3. ข้าพเจ้ามีเมตตาต่อสัตว์มากขึ้น
4. คลายอารมณ์ร้อนและโกรธได้
5. ลดกรรมได้
10.งบประมาณที่ใช้ (หากมี)..... .................บาท
แหล่งที่มาของงบประมาณ...............................................................................
ลงชื่อ...............................................ผู้เสนอโครงงาน
( พระรังสรรค์ พิมพ์ช่างทอง )
วัน/เดือน/ปี ที่เสนอ ………………………… 2552
ลงชื่อ.................................................ผู้อนุมัติ ลงชื่อ.................................................ผู้อนุมัติ
( ) ( )
อาจารย์นิเทศก์ประจำวิชา อาจารย์นิเทศก์ประจำวิชา
วัน/เดือน/ปี ที่อนุมัติ................................. วัน/เดือน/ปี ที่อนุมัติ.................................
บทคัดย่อ
โครงงานที่ข้าพเจ้า ทำคือ “ปรับอารมณ์ร้อนและโกรธ ” จุดประสงค์คือปรับลดอารมณ์ร้อนและโกรธ เพื่อสร้างอารมณ์ให้เกิดความเย็นใจและไม่สร้างกรรม แต่กลับกันกับสร้างความเมตตาต่อสัตว์มากขึ้น และยังทำให้อารมณ์มีสุนทรีย์ศาสตร์อีกด้วย พร้อมใช้หลักธรรมะ เป็นตัวขยายความหมายของการปฏิบัติ ทำให้การปฏิบัติเกิดแนวทางที่ถูกต้อง ข้าพเจ้าเริ่มทำโครงการเมื่อ 6 กันยายน พ .ศ . 2552 ถึง 30 พฤศจิกายน พ .ศ . 2552 โดยเริ่มปฏิบัติตามกรอบของตารางการปฏิบัติครบทั้ง 7 วัน ในหนึ่งสัปดาห์ จนถึงสัปดาห์สุดท้ายที่ปฏิบัติ ผลคือการปฏิบัติของข้าพเจ้าเป็นที่พอใจเป็นอย่างมาก โดยสร้างแบบสอบถามเพื่อประเมินโครงงานของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีอารมณ์ที่ปรับตัวได้มากขึ้นและให้อภัยต่อสัตว์และมีเมตตามากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้ารู้สึกว่าอารมณ์เย็นและโรแมนติกและมีอารมณ์สุนทรีย์ภาพมากกว่าเดิม
โครงงานนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้คือ สามารถปรับอารมณ์จากร้อนและโกรธได้ดีตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
.................................................................................................
จากการศึกษารายวิชาต่างๆและวิชา สปช. 2 นี้มุ่งศึกษาตนเองและพัฒนาตนเองด้วยวิธีการต่างๆเช่นการนำหลักธรรมะมาใช้ ฉะนั้นวิชานี้จึงสบายมากเพราะอยู่กับธรรมะอยู่แล้ว และการพัฒนาตนเองไม่มีที่สิ้นสุด ได้วิชาการและทักษะต่างเพิ่มขึ้น ได้รู้จักตนเอง ได้รู้จักคน และได้รู้จักสังคม ชุมชนและท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น และคิดว่าสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ในอาชีพการงานตนเองได้ดีด้วยทั้งปัจจุบันและอนาคต ที่นำมาเสนอเป็นแบบย่อเท่านั้น .