วันนี้เป็นวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค. 2553 เป็นวันมงคลสำหรับทุกๆท่านที่จะขอพรและขอขมาคุณแม่ เป็นวันแห่งความกตัญญูแห่งชาติเลยก็ว่าได้ ถ้าเพิ่มได้ จะเป็นคำว่าวัน กตัญญูแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ซึ่งก็เท่ากับที่เราได้ปฏิบัติกันมาคือ กตัญญูรู้คุณแม่ คำว่าแม่นี้ยิ่งใหญ่มาก ได้รับเกียรติขึ้นนำหน้าพยางค์ต่อไป เช่น แม่คงคา แม่โพสพ แม่ธรณี เห็นไหมครับว่าคำว่าแม่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน
บูรณภาพ หมายภึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวในทุกๆด้าน เพื่อบรรลุผลที่ตั้งใจว่า หรือที่เราใช้คำว่า VISION วิสัยทัศน์ ที่นี้มาว่ากันว่าทำไมประเทศเขมร ประเทศเล็กๆที่ไม่พัฒนาเลย กับใช้โอกาสความเป็นประเทศเล็กๆที่ไม่พัฒนาเพื่อให้ประเทศอื่นสงสาร หรือเรียกความสงสารจอมปลอม คือไม่น่าสงสารจริง จากประเทศใหญ่ๆได้ และใช้โอกาสที่ประเทศไทยมีความวุ่นวายภายในประเทศ และถือโอกาสแทงข้างหลัง และขี้ฟ้องเที่ยวไปฟ้องประเทศใหญ่ๆว่าโดนไทยกลั่นแกล้ง ซึ่งจริงๆแล้วไม่เป็นความจริงตามที่เขมรเที่ยวไล่แทงประเทศไทยด้านหลังและขี้ฟ้องซึ่งเป็นเรื่องเท็จทั้งนั้น แท้ที่จริงแล้วประเทศไทยมีแต่ช่วยเขมรในด้าน ยา อาหาร สิ่งก่อสร้าง และเงินมาตลอด มีไหมที่เขมรจะเอาสิ่งนี้ไปบอกกับชาวโลกและเอาไปบอกประเทศใหญ่เหล่านั้นไม่มีครับ ซึ่งเป็นการใช้บูรณภาพที่ผิดๆไม่ดีต่อไทยแต่เขมรได้ผลประโยชน์ของตนเอง เป็นการถือโอกาสแทงข้างหลังประเทศไทยเราอย่างจงใจ เริ่มมาตั้งแต่สมัยคนเขมรเผาสถานทูตไทยในเขมรถือเหยียบย่ำคนไทยทั้งประเทศและประเทศไทย และยิ่งเหยียบย่ำคนไทยด้วยการทำลายพระบรมรูปในหลวงของเรา ส่วนตัวผมเองจึงรู้สึกไม่ดีกับประเทศเขมรตั้งแต่นั้นมาครับ แล้วถือโอกาสรุกล้ำแผ่นดินไทยอีกต่างหาก สหประชาติเมื่อถือความถูกต้อง ก็ต้องสร้างความถูกต้องให้เกิดครับ ประเทศไทยเราเป็นสมาชิกที่ดีมาตลอด และกับประเทศใหญ่ๆ เช่น อเมริกา อินเดีย จีน เกาหลีใต้ หรือแม้กระทั้งญี่ปุ่น หรือประเทศต่างๆครับ เพราะเราสึกกร่อนไปจึงทำให้ ประเทศเขมรถือโอกาสแทงหลังไทยทำเรื่องไปฟ้องประเทศใหญ่ๆว่าโดนไทยกลั้นแกล้ง รุกล้ำ แต่เรื่องความดีประเทศไทยที่ช่วยเหลือไม่เคยนำไปบอกเลย เมื่อผ่านเหตุการณ์เมษายนมา ที่คนไทยเรามาฆ่ากันเอง รู้ไหมครับว่าใคร ยิ้มเหยาะเย้ยเราก็เขมรนี้ครับที่อยู่ในไทยเราด้วย เพราะเค้าไม่ใช่คนไทย เป็นเพียงผู้อยู่อพยพเข้ามาอาศัยทำงาน หรือในประเทศของเค้า เราอายเค้าไหมครับ ผมอายซิครับ ที่คนไทยมาฆ่ากันเอง มันไม่ดีหรอกครับ เราเป็นคนไทย เกิดประเทศไทย อยู่ประเทศไทย เราก็ต้องรักกันไว้ครับ ใครที่ไม่ใช่คนไทยแต่อาศัยบนแผ่นดินไทยไม่รักประเทศไทยก็ต้องปล่อยเค้าไปหรือต้องผลักดันกลับประเทศไปเพราะถือว่าเดียวมาสร้างปัญหาให้กับเรา เราต้องเลี้ยงคนของเราไม่อิ่มก่อน แล้วค่อยไปเลี้ยงคนต่างประเทศครับ เราต้องเลี้ยงคนของเรา คือคนไทยของเราก่อน ให้อิ่ม ให้สุขกายสบายใจ เราคงไม่มีปัญญาเลี้ยงคนต่างชาติที่ด้อยพัฒนาที่อพยพเข้ามาไทยได้ทั้งหมด ที่ทำได้คือให้ทำงานอย่างถูกกฏหมาย และทำตามกฏหมาย แม้จะเกิดบนแผ่นดินไทยก็ตามเค้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกรักประเทศเพราะการปลูกฝังความคิดจาก พ่อ แม่ เค้าว่าเราเป็นคนประเทศนั้นประเทศนี้นะเท่านั้นเช่นประเทศเขมรเป็นต้น ผมเห็นด้วยที่กระทรวงต่างประเทศทำหนังสือชี้แจงต่อ UN หรือ UNESCO ด้วยยิ่งดี และทำหนังสือฟ้องด้วยยิ่งดีว่าเขมรมีแต่โกหกพกลม ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จทั้งนั้น
การปฏิรูปประเทศ
การปฏิรูปประเทศต้องใช้บูรณภาพ คือการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คือ ความคิด จิตใจ ที่ต้องให้คนไทยทั่วประเทศมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศร่วมกัน สิ่งที่ท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผิดพลาดไป อย่างเช่น
1. ขาดการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การปฏิรูปร่วมกัน ในส่วนจังหวัดต่างๆ ด้านแผ่นป้าย การเชิญร่วมรณรงค์ปฏิรูปประเทศร่วมกัน เพราะประชาชนสึกว่าไม่มีส่วนร่วมเลย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องของคน 20 คนเท่านั้น
2. ขาดการมีส่วนร่วม คือร่วมคิดปัญหา ของประชาชนของแต่ละัจังหวัดในการคิดร่วมปฏิรูปในภาคจังหวัด คือ การสัมมนาปัญหาของประชาชนโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีประชาชนทุกอาชีพร่วมถกปัญหาแล้วนำปัญหาของแต่ละจังหวัดที่ได้คัดแล้ว มาสู่คณะกรรมการแล้วมาทำการศึกษาและนำไปสู่การแก้ไข จากปัญหาใหญ่ๆ ไปสู่ปัญหาน้อยๆ
3.คณะกรรมการปฏิรูปประเทศขาดการลงหาข้อมูลเชิงประจักษ์เพื่อนำมาคิดในสิ่งที่ควรนำมาแก้ไขในแต่ละจังหวัด คือต้องลงไปคลุกคลีกับประชาชนอย่างแท้จริงสัก 3 เดือน เพื่อหาปัญหา หรือไมก็ต้องทำตามข้อ 4 คือ
4.คณะกรรมการปฏิรูปไม่เคยเจอทุกข์ของชาวบ้านที่แท้จริง เพราะมีแต่ความสุขของตนเองและในผลประโยชน์ตนเองที่พึ่งจะหาได้ จึงขาดความรู้ความเข้าใจที่แท้จริง ในการแก้ปัญหา มีอยู่ทางเดียวจริงๆ คือ นายกรัฐมนตรีต้องเข้าขอพระราชทานเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอคำปรึกษาปัญหาของชาติของพสกนิกรของท่าน เพราะตลอดชีวิตของพระองค์ พระองค์ลงพื้นที่จริงมาตลอดทั้งชีวิตได้เห็นปัญหาแล้วนำมาสู่การแก้ไขให้พกนิกรของท่านให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
5.นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องทุ่มงบประมาณเพื่อจัดทำตาม ข้อ 1 และ 2
และสุดท้ายคณะรัฐมนตรีต้องยกเลิกรถเมล์เจ้าปัญหาไป เพราะเราต้องจ้างคนไทยให้มีงานทำไม่ใช่ให้ตกงาน ไม่จ้างงานคนไทยด้วยกันแล้วจะไปจ้างใครที่ไหนละครับ เพราะเห็นมีแต่นโยบา่ยว่าจะทำให้ประชาชนมีงานทำ เพิ่มงาน เพิ่มอาชีพ อยู่ดีมีสุข แต่จะมายกเลิกจ้างคนไทยด้วยกันมันอย่างไรอยู่ ซึ่งผมเห็นแต่มีนโยบายพรรคการเมืองต่างๆ ว่า จ้างงาน เพิ่มรายได้ แต่จะมาทำตรงกันข้ามตามที่วางนโบายไว้มันอย่างไรอยู่ มันไม่ดีแน่นอนครับ เราต้องให้คนไทยเรามีงานทำก่อน มีความอิ่มท้อง อิ่มกาย อิ่มใจ นั้นแหละครับปฏิรูปประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเรามัวแต่หาผลประโยชน์กันจึงเป็นช่องเบอเริ่มให้ต่างประเทศเช่นประเทศเขมรถือโอกาสแทงข้างหลังไทย ขี้ฟ้องเรื่องเท็จๆ แบบตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ต่อประเทศใหญ่ๆเพื่อทำร้ายประเทศไทย และคนไทยเรา ผมคนหนึ่งละครับที่ยอมไม่ได้.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น