Welcome to my blogspot

ดาวน์โหลดบทความใหม่ (dwnld)...ร.๕ กับการเสด็จประพาสประเทศอินเดีย...ขอขอบคุณบทความดีๆที่มีให้เราๆได้อ่าน เสริมปัญญา เป็นอาหารสมอง และให้ความรู้ที่ดีที่สุด­เพราะกลั่นมาจากปัญญาแท้ๆ wel 2013 come / Happy new year

หยิบข่าวมาบอก:Breaking News

r

06 มีนาคม 2552

พระพุทธศาสนาในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย







อินเดียเป็นแหล่งอารยะธรรมโบราณที่เก่าแก่อีกที่หนึ่งที่น่าศึกษา มีสิ่งที่น่าศึกษาอยู่มากมีศาสนาที่เกิดขึ้นในอินเดียมากมาย ตามที่เรารู้จัก คือ พุทธศาสนา ฮินดู เชน เป็นต้น ความรุ่งเรืองของอินเดียมีมาก่อนสมัยประวัติศาสตร์ และมีเส้นทางสายไหม ที่เป็นเส้นทางค้าขายไปยังโลกตะวันตก ความเจริญของพระพุทธศาสนาเป็นที่ตะหนักแก่ชาวโลกในปัจจุบัน เพราะมีโบราณสถานของพระพุทธศาสนามีมากมายหลายประเทศ เช่น อัฟกานิสถาน ที่มีโบราณสถานทางพระพุทธศาสนามากมาย แต่ถูกพวกตาลีบัน สั่งทำลาย จนมีการเรียกร้องจากองค์กรต่างๆในโลกให้หยุดกระทำแต่ไม่สำเร็จผล ผลสุดท้าย โบราณสถานถูกทำลายไป แต่สุดท้ายพวกตาลีบัน โดนกองทัพสหรัฐอเมริกาเข้าโจมตีฝ่ายตาลีบัน จนตาลีบันแตกกระจายไป พระพุทธศาสนาได้กระจายไปเกือบทั่วโลก และเข้ามาในไทย สมัยที่รุ่งเรืองคือสมัยสุโขทัย อยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์ ในปัจจุบัน ซึ่งมีประจักษ์เป็นโบราณสถานพระพุทธศาสนามากมายในกรุงสุโขทัย จวบจนปัจจุบัน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเมืองเก่า และศรีสัชนาลัย เป็นต้น พระพุทธศาสนาในอินเดียปัจจุบัน ได้รับการฟื้นฟูจากพุทธศาสนานิกชน จากชาวอินเดียและจากนานาชาติ หนึ่งนั้นคือประเทศไทย แต่ครั้งนี้จะนำเรื่องพระพุทธศาสนา ในรัฐอัสสัม ( Assam) ประเทศอินเดีย มาบอกกล่าวเล่าสิบเป็นบทความเล็กๆดังนี้ ในรัฐอัสสัม มีพระพุทธศาสนาที่เหมือนกับประเทศไทย มีพระ มีวัด มีอุบาสก อุบาสิกา และมีคนไทย แต่เป็นคนอินเดียในปัจจุบัน พูดภาษาไทยได้ อยู่หมู่บ้านชื่อ นำพ่าเก ( Namphake) ที่รัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย นับถือพระพุทธศาสนา มีคนไทยที่เดินทางไปศึกษาพี่น้องคนไทยที่รัฐอัสสัม อยู่บ่อยครั้ง เพื่อศึกษาวิถีชีวิตคนไทยชาว นำพ่าเก ท่าน ส. ศิวรักษ์ ได้เคยไปสัมพัสกับชีวิตจริงของ ชาวไทยนำพ่าเก แล้วนำมาเขียนชื่อว่า ไปเยี่ยมคนไทในรัฐอัสสัม ดังนี้
เรานั่งรถไปไกลจากเมืองศิวะสาคร สู่หมู่บ้านไทผาแก่ ไปที่วัดพุทธศาสนา ตรงกับวันเถลิงศก ๑๕ เมษายน ไปทำบุญร่วมกับคนไทที่นั่น ได้สาดน้ำกัน ได้สรงน้ำพระ ซึ่งมี ๔ รูป เณร ๕ รูป เณรน้อยสวดมนต์ได้คล่องและยาว แต่ตอนสรงน้ำ ชาวบ้านแกล้งรดน้ำบนศีรษะเณรจนเปียกปอน พอชาวบ้านนั่งรับพรพระ เณรก็ออกฤทธิ์ เอาน้ำสาดชาวบ้านให้เปียกโชกไปด้วยเหมือนกัน นับว่าเป็นกันเองอย่างไม่ดัดจริตเอาเลย
ที่วัดนี้ เราเจอคนไทผาแก่ที่เคยทำงานร่วมกับอาจารย์บรรจบ พันธุเมธา ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกทางด้านนี้ ดังเรื่อง กาเลหม่านไต ของท่านเป็นพยาน และได้พบกับคนที่เคยทำงานกับอาจารย์ฉัตรทิพย์ นาถสุภา อีกด้วย ส่วนคนที่เขียนเรื่องสงกรานต์กับคนไทยในอัสสัมที่สนุกที่สุด เห็นจะได้แก่นายสุจิตต์ วงษ์เทศ ซึ่งไปกับนายไกรศรี นิมมานเหมินท์ จนไปเกิดอาการขลึกขึ้นอย่างที่อ่านแล้วต้องหัวเราะกลิ้งไปเลย ไม่รู้ว่าศิลปวัฒนธรรม จะเอามาพิมพ์ซ้ำให้ได้อ่านกันอีกหรือไม่ ยังที่สารนาถ ( สังข์ พันธโนทัย) เขียนเล่าสมัยไปรัฐอัสสัมเมื่อกว่าสามสี่ทศวรรษมาแล้ว ก็ยังน่าหามาอ่านกันอยู่อีก ...ที่มา http://www.semsikkha.org/review/.
และอีกคณะที่เคยเดินทางไปศึกษาภาษาไท ที่หมู่บ้านนำพ่าเก ได้แก่ คณะมนุษยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ได้นำเรื่องราวของคนไทยเช่นเดียวกับเราที่พูดภาษาไทย แต่ของชาว นำพ่าเก จะเป็นภาษาไทยแท้ๆ ส่วนของคนไทยเรามีคำของบาลีและสันกฤต อยู่มาก ซึ่งเป็นอิทธิพลของพระพุทธศาสนา และแถมหน้าตาเป็นเหมือนกับเรา ถ้าไม่อยู่ที่รัฐอัสสัม เราจะคิดว่าเป็นคนไทยเรานี้เอง ชาวไทยนำพ่าเก นับถือพระพุทธศาสนา มีวัด มีพระ มีเณร แบบบ้านเรานี้แหละ พิธีกรรมเของพระพุทธศาสนามีลักษณะเหมือนกับของไทยไม่แตกต่างกัน ลักษณะภาษาไทย ของชาวนำพ่าเก ในรัฐอัสสัม มีดังนี้
อ้าย คือลูกชายคนโต, ยึ่ ลูกคนที่สอง ,สามลูกคนที่สาม, สี่ ลูกคนที่สี่,ปัญจ ลูกคนที่ห้า,หนุ๊ก ลูกคนที่หก,เจ๊ด ลูกคนที่เจ็ด,แป๊ด ลูกคนที่แปด,เกา ลูกคนที่เก้า, ซิ๊บ ลูกคนที่สิบ , หรือจะใช้เรียกจำนวนนับอื่นๆ ก็ได้
และเมื่อไม่นานมานี้เมื่อเดือนที่แล้วสมเด็จพระเทพ ฯทรงเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมชาวไทย นำพ่าเก อีกด้วย สภาพบ้านเมืองของชาวไทยนำพ่าเก เป็นแบบธรรมชาติๆเหมือนเมืองไทยสมัยก่อนเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ผู้เขียนเองถ้ามีโอกาสจะต้องเดินทางไปศึกษาคนไทย ชาวนำพ่าเก ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดียให้ได้สักครั้งหนึ่ง และศึกษาด้านพระพุทธศาสนาของชาวไทนำพ่าเก ให้ละเอียดอีกอีกครั้งหนึ่ง. ที่มาของรูปและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาวไทยนำพ่าเกที่ http://www.siamensis.org/board/9160.html
......................................................................................................................................





ไม่มีความคิดเห็น: