Welcome to my blogspot

ดาวน์โหลดบทความใหม่ (dwnld)...ร.๕ กับการเสด็จประพาสประเทศอินเดีย...ขอขอบคุณบทความดีๆที่มีให้เราๆได้อ่าน เสริมปัญญา เป็นอาหารสมอง และให้ความรู้ที่ดีที่สุด­เพราะกลั่นมาจากปัญญาแท้ๆ wel 2013 come / Happy new year

หยิบข่าวมาบอก:Breaking News

r

17 พฤษภาคม 2552

มีความสุขในโลกที่แคบ ดีกว่ามีทุกข์ในโลกที่กว้าง


หลายๆคนในโลกเรานี้ล้วนปรารถนาความรวยคือมีเงินมีทองใช้จ่ายแบบไม่ขาดมือ ในโลกปัจจุบันหรือในอดีตพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าคนจะก้าวล่วงทุกข์ได้ก็เพราะความเพียร เพียรในความหมายของพระพุทธศาสนากับความหมายทางโลกจึงเหมือนกันเพราะเอาความหมายของศาสนาไปใช้ เพียรคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เอาใจและกายเข้าไปเปลี่ยนให้เป็นทรัพย์สินหรืออะไรก็ตามเช่น มีความเพียรในการศึกษาเล่าเรียนต่างๆ และการงานเพื่อชีวิตและครอบครัวที่ดีงาม ใจคือมีใจให้สิ่งที่ทำ กายคือยอมสละแรงกายและเหงื่อ ผลคือมีชีวิตที่มีอยู่ของตนเองดีมีความสุขครอบครัวสุขสบายอันนี้สมควรย่องยกเป็นอย่างมาก แต่การเสาะแสวงหาความสมหวังของคนบางคน บางพวกมุ่งเอาเปรียบคนอื่น เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขความสมหวังของตนเองและพวกหรือครอบครัวไม่ว่าด้วยวิธีการสกปรกปานใด อันนี้น่ารังเกียจมากถึงมากที่สุด ถ้าคนมีหลักศาสนาอยู่ในใจที่แท้จริงจะไม่กล้าแม้แต่จะคิดทำ เพราะคนที่จิตใจบริสุทธิ์ จะมีน้ำใสใจจริง ส่วนคนคดจะมีน้ำขุ่นใจคด ดูไม่ยากไม่นานเพราะเค้าจะต้องแสดงธาตุแท้ออกมาสักวัน ชีวิตของผู้เขียนเองไม่ได้วิเศษดีเลิศอะไรก็เพราะเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่มีแม่ มีแต่พ่อ พ่อไม่รวยยืนยันนั่งยันว่าจริง พ่อแยกทางกับแม่ตั้งแต่วัย 1 ขวบ แต่พ่อของฉันไปรับฉันมาจากแม่เมื่อ อายุ 7 ขวบ คือไปขโมยจากแม่มาตอนที่แม่ออกไปทำงานนอกบ้าน แต่แม่ฝากฉันไว้กับเพื่อนบ้าน แถมเป็นลูกโทนคนเดียวเสียอีกจึงลำบาก ตั้งแต่นั้นมาฉันจึงไม่ได้พบกับแม่อีกเลย (แต่ฉันได้ติดตามหาแม่แล้วโดยถามข้อมูลจากพ่อ ฉันถึงเดินทางไปอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ตามที่พ่อบอก เมื่อปี 2550 นามสกุลแม่ คือ กองค้า ฉันได้ไปค้นหาข้อมูลบนอำเภอ จนฉันได้เจอบ้านแม่ ฉันจำสภาพบ้านได้ ในใจคิดว่าใช่แล้ว โดยคำถามชุดแรกว่าบ้านนี้มีผู้หญิงชื่อเสถียรไหม คำตอบมี คำถามชุดสองโยมเสถียรมีลูกชื่อต้นใช่ไหม ตอบใช่ คำถามชุดต่อไปแล้วพ่อของต้นชื่ออะไรเป็นคนที่ไหน คำตอบพ่อของต้นชื่อปุ๊หรือดำ เป็นคนสุโขทัย คำพูดแรกคือใช่แล้ว ฉันนี้แหละชื่อต้นลูกพ่อปุ๊ที่อยู่สุโขทัย เป็นลูกของแม่เสถียร ร้องโฮ่กันใหญ่ แต่ได้เจอแต่ยายจอม กองค้า และ น้าๆป้า เท่านั้น ไม่พบกับแม่ ได้สอบถามแล้วว่าแม่ได้ไปจากบ้านนานแล้วหลังจากมีน้องใหม่อีกสองคน คำว่าไปจากบ้านนานแล้วคือแม่สาบสูญติดต่อไม่ได้ สัญนิฐานว่าตายไปแล้วเพราะเป็น 20 กว่าปีแล้วครอบครัวทางแม่ไม่รวย ฉันตั้งใจจะเลี้ยงดูแม่สักครั้งในชีวิตตอบแทนคุณท่านให้ท่านได้สุขสบายแต่ฉันไม่มีโอกาสได้ตอบแทนแม่ มีแต่การบวชมา 10 กว่าปีของฉันจะเป็นผลบุญให้แม่ของฉันได้บ้างและการทำความดีตอบแทนแม่) มีคำโบราญว่าไว้ คือ ขาดแม่เหมือนแพแตก พ่อส่งฉันมาอยู่กับปู่-ย่า ที่สุโขทัย นี้นะถ้าพ่อไม่รักเราก็คงไม่ไปเอามาจากแม่ แต่พ่อไม่แสดงออกเพราะอยากให้เราพึ่งตนเองให้มาก เพราะการที่พ่อต้องรับผิดชอบกับครอบครัวใหม่กับลูกอีก 2 คนที่กรุงเทพ เอาละสรุปง่ายๆเพราะเขียนไปยาวแน่ๆว่าตัวฉันเองชีวิตไม่ได้สุขสบายอะไรเลยเจอแต่ทุกข์ แต่ด้วยความเพียรที่แท้จริงที่มีอยู่+กับมีผู้สนับสนุนเรื่องการศึกษา จึงทำให้ฉันมีความหวังในชีวิตที่ดีกว่าเดิมนั้นเอง จึงเพียรเล่าเรียนศึกษาจนจะสำเร็จปริญญาเอกอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขอเสริมอีกสักนิดขอทำควมเข้าใจว่าลูกโทนคนเดียวที่ไม่มีพี่น้องร่วมสายโลหิตและไม่มีแม่ จะดูแข็งคือแข็งทางกายและใจเพราะต้องทำทุกอย่างเองหมดตั่งแต่การทำงานเพื่อเลี้ยงตนเอง ซักผ้า ถูบ้าน หุงข้าว ที่สำคัญคือยืนต้านทานแรงลม แดด ฝน อยู่คนเดียว และไม่เคยโดนเอาใจเหมือนลูกคนอื่นที่มีพ่อมีแม่ครบ จึงไม่เข้าใจการพูดเอาใจ การประจบประแจง ไม่เคยสนุกสนานเที่ยวเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป ที่ไปเสียเป็นส่วนใหญ่ และดีส่วนใหญ่ เสียแล้วกลับมาดีได้บ้าง ที่ดีแล้วกลับไปเสียบ้าง เป็นต้น ฉะนั้นแล้วจึงอย่าได้คิดเป็นอื่น ต้องยอมรับว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้จะดูไม่ออกจะไม่เข้าใจเลยที่เดียว บางครั้งอยู่กับคนอื่นจึงต้องใช้จิตน้อมไปศึกษาเรื่องราวของคนอื่นบ้าง อย่าใช้ประสบการณ์ด้านเดียวของตัวเองที่มีอยู่ไปใช้ตัดสินคนอื่นหรือกับเพื่อนร่วมงานหรืออื่นๆ ต้องใช้จิตวิทยา เพราะอะไร "เพราะโลกนี้ไม่เที่ยงผันแปรตลอด" ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ <อนิจจัง ทุกข์ อนัตตา> ใจคนก็เช่นเดียวกัน ไม่เที่ยงจากเคยเป็นคนจิตใจดีเปลี่ยนมาเป็นคนจิตใจชั่วร้ายก็เยอะ จากคนใจชั่วร้ายเปลี่ยนมาเป็นคนจิตใจดีก็มีเยอะ หรือจากคนคิดดีมาเป็นคนคิดชั่วก็เยอะ หรือจากคนดีจิตใจดีก็ดีตลอดดังความมั่นคงเช่นภูเขาไม่สั่นคลอน ดูจากไหนตัวอย่าง องคุลีมารนั้นเอง องคุลีมารที่จริงจิตใจเดิมๆเป็นคนคิดดีจิตใจดี แต่โดนเหล่าบรรดาศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันร่วมกันกลั่นแกล้งใส่ไคร้เพราะอิจฉา ว่าองคุลีมารคิดฆ่าอาจารย์ วิเคราะห์อาจารย์เองก็หูเบาปัญญอ่อนซะเหลือเกิน หลงเชื่อคำยุยงของเหล่าบรรดาศิษย์ชั่วคนอื่น "คนมีปัญญาจะต้องตรวจสอบสั่งเกตุก่อน" จึงสั่งให้องคุลีมารไปตัดนิ้วมา 1000 นิ้วเพื่อบูชาครูในการเรียนวิชาขั้นต่อไป ถ้าไม่บูชาจะไม่เป็นผล ด้วยเหตุที่ให้ไปตัดคืดต้องการยืมมือคนอื่นฆ่าองคุมารนั้นเอง ตนแรกองคุลีมารไม่ทำตาม แต่ด้วยรักในการเรียน จึงทำให้องคุมารหลงผิด ไปกับอาจารย์ปัญญาอ่อน แถมใจชั่วอีกต่างหาก

สรุปตบท้ายองคุลีมารมีจิตใจดีงามมาก่อนแต่โดนกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนักผนวกกับอาจารย์ที่ปัญญอ่อนไม่คิดตรวจสอบให้รอบครอบก่อน แต่สุดท้ายพระพุทธเจ้าก็มาโปรดองคุลีมารจนได้นิพพาน
ฉะนั้นแล้วการดูคนต้องดูให้ลึกถึงข้างใน ดูวิถีชีวิตความเป็นมา จะทำให้เข้าใจคนอย่างท่องแท้ ฉะนั้นแล้วฉันจึงพอใจในสิ่งที่ฉันมีฉันเป็น ฉันไม่เคยสร้างความเดือดให้คนอื่น อยู่เท่าที่ตัวเองอยู่ได้ ยืนได้บนโลกอย่างไม่สร้างกรรมให้คนอื่น ได้ช่วยเหลือสังคมนิดๆหน่อยตามอัตภาพฉันก็พอใจแล้ว แต่คนในโลกนี้ลืมสังคมไม่เหลียวแลสังคมจนปล่อยให้สังคมเน่า เพราะความเห็นแก่ตัวที่มาก่อนแต่ไม่เป็นไร "การมีความสุขในโลกที่แคบคือ การพอมีพอตัวของตัวเองมีความสุขในรังที่พอตัว ไม่เบียดเบียนคนอื่น เท่านี้ก็เป็นสุขเหลือล้น" "ส่วนการมีทุกข์ในโลกที่กว้าง คือความไม่รู้จักตัวตน อยากมีอยากได้เกินฐานะ อยากอวดอยากโชว์ว่ามีฐานะ จึงไม่คำนึงถึงการได้มาของเงินทอง จึงทำให้แสวงหาเงินโดยวิธีการต่างๆ เช่นยอมเป็นข้าทาสเงินให้เค้าซื้อได้ด้วยเงิน เหมือนการซื้อวัวซื้อควาย เขาจะจูงจมูกแบบไหนก็เชื่อและทำตามแม้ว่าจะเป็นสิ่งผิด หรือการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือหลอกลวงคนอื่นเป็นต้น เพราะการที่ดูถูกใจตัวเอง จึงทำให้ตัวเองต้องตกต่ำทางใจและศีลธรรม จึงมีความเป็นอยู่ที่ทุกข์ตลอดเวลา เพราะไม่รู้จักพอตัวพอตนและพอดีนั้นเอง" แต่จงจำไว้ว่าสังคมจะดีได้ก็เพราะใจเราร่วมมือแก้ไขความเน่าของสังคมและสิ่งที่เน่าในสังคมต้องแก้ไขด้วยตนเองจากสามัญสำนึก เพื่อให้สังคมใสสะอาดมีแต่คนดีๆ.


2 ความคิดเห็น:

Leonard กล่าวว่า...

ดีมากๆเลยคะ ขออนุญาตเอาลิงค์ของหลวงพี่ไปโปรโมตที่ http://murzynka.exteen.com/นะคะ ถ้าอนุญาตก็เมล์มาบอกนะคะ ขอให้เดินทางด้วยความปลอดภัยนะคะ ส่วนแบกเป้เปรี้ยวก็จะไปลาววันพุธที่จะถึงคะ

teriya กล่าวว่า...

บางทีอะไรๆที่ดีๆแบบนี้ กว่าเราจะรู้สึกและได้คิดกลั่นกรองอะไรด้วยตัวเอง มันก็บวกกับเวลาที่ผ่านมากับประสพการณ์ที่เพิ่มมาในอายุที่มากขึ้น เพราะฉนั้นก็เป็นการดีที่ได้อ่านข้อความดีๆ ที่ช่วยกระตุ้นให้ได้คิดไปในทางที่ดีแบบนี้น่ะค่ะ ...