Welcome to my blogspot

ดาวน์โหลดบทความใหม่ (dwnld)...ร.๕ กับการเสด็จประพาสประเทศอินเดีย...ขอขอบคุณบทความดีๆที่มีให้เราๆได้อ่าน เสริมปัญญา เป็นอาหารสมอง และให้ความรู้ที่ดีที่สุด­เพราะกลั่นมาจากปัญญาแท้ๆ wel 2013 come / Happy new year

หยิบข่าวมาบอก:Breaking News

r

01 มกราคม 2553

เดินทางไป Conference เมือง Indore, Mumbai และ ไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณสถานทางพระพุทธศาสนาที่ Ajanta : ประเทศ India ตอนที่ 1

หลวงพี่กับ Mr. Dan ว่าที่ Dr. มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก ได้างแผนกันไปสัมมนา
Semina,Conference กันที่อินเดีย โดย Mr.Da
n ได้เดินทางมาถึงขอนแก่นในวันที่ 19 ธ.ค. 2553 เพื่อจะเดินทางไปกรุงเทพ ณ สนามบินสุวรรณภูมิพร้อมกั พวกเราโดยสารรถทัวร์ถึง กรุงเทพ เวลาตี 4:oo am. ของวันที่ 20 ธ.ค. 2553 แล้วได้ต่อรท็กซี่ไปยังบ้านคุณบุญลือเพื่อไปเอาตั๋วเครื่องบินที่บ้านคุณบุญลือ โดยครั้งนี้หลวงพี่มีคุณบุญลือ สนับสนุนด้านการเงินที่ถวายให้ในครั้งนี้ เมื่อได้ตั๋วแล้ว คุณบุญลือ นิลชาติ (แปะน่ำ)ได้กรุณานำรถยนต์ไปส่งหลวงพี่และ Dan ที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลา ตี 5:20 am. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 6:00 am. หรือ 6 โมงเช้ากว่าๆ พวกเราถึงสนมบินได้ Cheak in ตั๋วและสัมภาระ เรียบร้อย เครื่องบินออก 9:30 am.พวกเราได้เดินทางไปถึงประเทศอินเดีย ณ สนามเมืองมุมไบ: Mumbai ประเทศอินเดีย เวลา 13:00 น.(บ่าย 1 โมง) และต้องไปต่อเครื่องบินภายในประเทศอินเดีย เพื่อไปเมือง Indore อีกที่หนึ่ง เพื่อไปยัง DEVI AHILYA UNIVERSITY, INDORE, INDIA. พวกเราได้เดินทางไปสนามบินภายในประเทศที่ ซานตาคูส (Santacruz , Mumbai) หลวงพี่ได้เรียกรถตุ๊กๆ หรือ ออโตริกซอ แม้หลวงพี่ก็บอกชัดนะว่าไปสนามบินภายในประเทศ หรือ Domestic Airport มันก็เข้าใจแล้วและให้เราขึ้นรถของเขา พวกเราขึ้นรถเพื่อไปสนามบินภายในประเทศ แต่มันกลับพาเราไปเชือด ฮ่า ฮ่า งานนี้รู้ทันมัน มันเลยอด ฮ่าฮ่า คนขับพาเราไปยังร้านคอมหรือสำนักงานอะไรสักอย่าง หลวงพี่สะกิดใจแล้วทำไมมันพาเรามาที่นี้ มันพามาหาพรรคพวกมันนี้เอง เพื่อทำการบุ๊คตั๋วออนไลน์ให้เราแล้วเรียกราคาสูงเกินจริง คนขับบอกเราว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันหยุดไม่มีการเปิดขายตั๋วที่สนามบิน จะต้องบุ๊คตั๋วที่นี้อย่างเดียว หลวงพี่ให้ Mr.Dan ลงไปดูก่อน Dan กลับออกมาบอกที่จองตั๋วออนไลน์ของสายการบิน หลวงพี่ไม่แน่ใจว่าะใช่เลยลงไปดูเอง ภายในเป็นสำนักงานมีคอมพิวเตอร์มากมาย แต่ใจหลวงพี่ก็บอกว่าไม่ใช่แน่นอน 100 % ส่วน Dan คงกลัวไม่ได้ไปมั้งถึงบอกว่าใช่ ที่แท้ไม่ใช่เป็นพวกต้มตุ๋น ต่างหาก แม้มีการถามชื่อ และดู Passport ด้วยนะ แบบทำให้เหมือนน่าเชื่อถือ มันถามหลวงพี่ต้องการไปที่ไหน เวลาอะไร กี่ที่นั่ง พอหลวงพี่ให้มันเช็คราคาดูก่อน พอมันเช็คราคาบอก หลวงพี่ว่า Rs. 5,600 ต่อคน หงายตู้มเลยหลวงพี่รีบเดินออก แล้วบอกให้ Dan ขึ้นรถแล้วคนขับยังไม่ยอมไปอีกนะ มีการพูดจาหว่านล้อมอีกต่างหาก ในที่สุดมันก็ไปส่งเราที่ สนามบินภายในประเทศ (domestic Airport) เมื่อไปถึงกับเรียกราคาเพิ่มเป็น Rs. 200 รูปี มันบกว่าค่าพาไปและเสียเวลา หลวงพี่ไม่ให้ ให้แค่ Rs. 80 รูปี จะเอาก็เอาไม่เอาก็ไม่เอา เดียวเรียกตำรวจ มันเลยยอม นี้แหละพวกนี้เป็นตัวทำลายการท่องเที่ยวประเทศอินเดียเอง สันดานไม่ดีพวกนี้ ทำให้เราเสียเวลาไปตั้งนานและเสียความรู้สึก และเสียอารมณ์ เมื่อมาถึงสนามบินมันพาเรามีชั้น 2 ของสนาม หลวงพี่ให้ Dan เดินหาที่ขายตั๋วของสายการบิน GoAir ที่มีราคาถูกสุดเพราะหลวงพี่เช็คนเน็ตก่อนแล้ว Dan หายไป 30 นาทีแล้วเดินกลับมาบอกว่าอยู่ชั้นล่าง ซื้อตั๋วเสร็จเข้าไปภายในสนามบินเป็นสนามบินใหม่ที่แยกตัวมาจากสนามบิInternational Airport มี Wireless ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ของบริษัทต่างๆใช่ด้วย


Our Trip to Indore.

Santacruz Domestic Airport at Mumbai.

พวกเราถึงสนามบิน Indore เวลา 21:15 น. ประมาณนี้แหละ ลยเก็บภาพตอนลงจากเครื่องมา
ให้ดูด้วย

Domestic Airport at Indore.

เมื่อลงจากเครื่องรู้สึกได้ว่าอากาศเย็นหรือหนาวอยู่เลยนะเนี้ย พวกเราผ่านการเข้าเมืองเรียบร้อยก็ติดต่อรถแท็กซี่ในสนามบินไปยัง DEVI AHILYA UNIVERSITY, INDORE, INDIA.
เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ พวกเราไปถึง GUEST HOUSEองมาวิทยาลัย เวลา 4 ทุ่ม ระยะทางจากสนามบิน ไปถึงมหาวิทยาลัย ประมาณ 25 กิโลเมตร เดินทางถึงแล้วเข้าพักผ่อนในห้องที่เตรียมไว้ให้ จัดทำธุระกิจส่วนตัวกันเสร็จ อากาศหนาวมากขอบอก แต่มีเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องเลยสะดวกขึ้นมาก หลวงพี่สวดมนต์เสร็จ ก็หลับเลยตื่นมาอีกที่ 7 :oo น. (เช้า) ของวันที่ Dec 21, 2009 ทำธุระกิจส่วนตัวอีกครั้งหนึ่งเสร็จแล้วพวกเราก็เดิสำรวจมหาวิทยาลัยแต่เช้า อากาศยามเช้าหนาวเย็นมากเลย ารสัมมนาจะเริ่มวันที่ December 22-24,2009 เมือง Indore คนอินเดียจะเรียกว่า เมืองน้องมุมไบ (Mini Mumbai) เป็นเมืองที่เจริญพอสมควร เป็นเมืองการศึกษา เพราะมี College ของรัฐ และเอกชนเต็มไปหมด

ภาพยามเช้า
DEVI AHILYA UNIVERSITY, INDORE, INDIA.

เดินไปถ่ายรูปมหาวิทยาลัยไปด้วยเป็นมหาวิทยาลัยที่มาสร้างในที่ใหม่ การก่อสร้างยังมีให้เห็นเป็นบางที่ เป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นความเป็นทันสมัยพอสมควรเน้นไปทางด้าน เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ และกีฬา และการบริหาร เป็นต้น การสัมมนาในครั้งนี้หลวงพี่ และDan ได้นำเสนอผลงานร่วมกัน ชื่อเรื่อง

DEVELOPMNENT OF A MODEL TO ENHANCE

EFFECTIVE CHANGE MANAGEMENT IN EDUCATION FOR SUSTAINABLE DEVELOPMENT IN HIGHER EDUCATION INSTITUTIONS: A CASE STUDY IN CAN THO UNIVERSITY, VIETNAM.

by Dr. Thai Cong Dan,Ph.D.
Phra Dr.Rangsan Phimchangthong,ฺฺ B.A. M.ed. Ph.D.
Doctoral Candidate, Naresuan University, Thailand
Doctoral Candidate,Magadh Universit y, India

and The Phranakhon Rajabhat University,Thailand


อีกหนึ่งผลงานที่ทำให้หลวงพี่มีความรู้มากยิ่งขึ้นเกียวกับการศึกษาในประเทศเวียดนาม งานเริ่ม Dec 22-24, 2009 หลวงพี่เก็บภาพในการ Conference ในครั้งนี้มาให้ดูด้วย ห้องสัมมนามีการแบ่งเป็นห้องๆ ในวันแรกของการประชุม คือวันที่ Dec 22,09 มีการเปิดประชุม มี Prof. Dr จากมหาวิทยาลัยในอเมริกามาด้วย 2 ท่าน (USA.) มาด้วยเพราะเป็นแม่งานในครั้งนี้คือ

Organized by

DBMA
University of Maryland
Eastern Shore, USA,
Modern Technology &

Management Institute Inc., USA,
College of Business
Frostburg State University
Frostburg, MD, USA


and Sponsored by
Synetic Business School
Ludhiana, INDIA


2 ท่านนี้เป็นคนอินเดียนะ แต่ได้เป็น Prof. ที่มหาวิทยาลัยใน อเมริกา USA. อยากเห็นคนไทยเราเป็นอาจารย์และได้เป็น Prof. ของมหาวิทยาลัยในอเมริกาบ้างจัง (หลวงพี่ไม่มีโอกาสแล้ว ถ้ามีโอกาสนะ ไปศึกษาที่สหรัฐอเมริกาเหมือนท่านๆนะ จนจบปริญญาเอกนะ บอกได้คำเดียวว่ามีเฮจะใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นอาจารย์ เป็น Prof.แล้วกลับมาไทยตอนอายุ 50 ปี มาเป็นวิทยาทานให้กับมหาวิทยาลัยของไทยเรา มาใช้ชีวิตบันท้ายชีวิตในไทย สำหรับหลวงพี่เองตอนนี้ได้เท่านี้ก็พอใจแล้ว ) ศึกษาจบจากอเมริกาแล้ว อย่าเพิ่งกลับไทยนะ เป็นอาจารย์และเป็น Prof. ของมหาวิทยาลัยอะไรก็ได้ในอเมริกาเพื่อชื่อเสียงคนไทยเราบ้างแบบ Go Inter ไม่ใช่จบแล้วมุ่งจะกลับบ้านอย่างเดียว แล้วแต่ความสามารถนะตรงนี้ เอาความรู้มารับใช้สังคมบ้านเราก็ได้ ลวงพี่ด้เก็บภาพในวันงานมาให้ชมด้วยนะใช้แทนการเล่าเรื่องราวไปเลยนะอ้อเกือบลืมชื่องานเลยชื่องานว่า


2009 INTERNATIONAL CONFERENCE ON GLOBAL ISSUES IN BUSINESS & TECHNOLOGY
(December 22 – 24, 2009)

Devi Ahilya University,Indore,India



ภาพวันเปิดงาน ฮิฮิ ตั้งวันที่ผิดไปหนึ่งวัน งานเริ่มวัน Dec 22-24,2009

คนที่ยืน เอามือกุมกันสูทสีดำ คือ Prof.Dr.Dinesh K. Sharma , University of Maryland Esatern Shore Pirncess Anne, USA. ส่วนท่านที่ 2 ตัวเล็กๆยืนอยู่ข้างๆ คือ Prof.Dr.Kamal Nayan Agarwal , Howard University, USA.


Viewing my photos ICGIMT- MTML and Visited The Institute of Science and Technology at Indore, M.P. “India”


บรรดาอาจารย์ต่างๆที่มานำเสนอผลงานขอถ่ายภาพด้วย ตอนไปเยี่ยมชม สถานที่ต่างๆใน Indore


ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก

รับ Certificate จาก Prof.Dr P.K. Gupta ในวันสุดท้าย เป็นใบที่ 2 ที่ Indore ในประเทศอินเดีย และใบที่ 3 จาก Universirty of Mumbai เช่นเดิม ใบแรกก็ที่ Mumbai เหมือนกัน

การประชุมสัมมนากันในครั้งนี้ดำเนินไปด้วยดี จนถึงวันสุดท้ายคือวันที่ 24 Dec 2009 หลวงพี่กับ Dan ได้ติดต่อไปศึกษาดูงานวิทยาลัยอีกที่หนึ่งของเช้าวันที่ 24 ในเวลา 8:00 am. (เช้า) มีรถยนต์มารับพวกเราไปดูงานในครั้งนี้ ชื่อสถาบัน Indore Institute of Science and Technology. มีการตอนรับเป็นอย่างดีจนเรารู้สึกว่าเป็นแขกที่มีเกียรติเป็นอย่างมากพอไปถึงมีการตอนรับแล้วเชิญไปที่ห้องประชุมเพื่อแนะนำตัวเองและฟังส รุปเกี่ยวกับวิทยาลัย มีการสอบถาม มีการพาไปยังห้องการเรียนการสอน มีนักศึกษา 2,000 กว่าคน สถานที่ของวิทยาลัยดูใหม่สะอาด พวกเราใช้เวลาครึ่งวันกับการดูงานในครั้งนี้

ภาพที่ Indore Institute of Science and Technology






ได้รับมอบของที่ระลึกจากวิทยาลัย แล้วกลับมายังมหาวิทยาลัย ในการสัมมนาปิดท้ายด้วยการ รับประทานอาหารกลางวัน เสร็จแล้ว หลวงพี่กับ Dan ได้เดินทางกลับห้องพักทำธุระกิจ จ่ายค่าห้องแล้วค่าอาหาร เรียบร้อย รวม 26 USD. ยังไม่รวมค่าสัมมนา Rs.3,000 รูปี ต่อคน อัตราเดียวกับคนอินเดียเลย พวกเราได้เดินทางไป Bus Stand ทำการจองตั๋วรถทัวร์ เพื่อไปยัง Ajanta พุทธศาสนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์พุทธศาสนา ที่เมือง Aurangabad เดินทาง 21:30 ถึง 09:45 แล้วเดินทางด้วยรถโดยสารไปยัง Ajanta อีกต่อหนึ่ง พวกเราไปถึง Ajanta 11:00 น. แล้วครั้งหน้าจะมาเล่า เรื่อง Ajanta และ สัมมนาที่ University of Mumbai ต่อนะ















1 ความคิดเห็น:

cocodrilo ^_^ กล่าวว่า...

โห..หลวงพี่ไปสัมมนาเหรอเนี่ย ขยันจัง นึกว่าหลวงพี่ไปเที่ยวอย่างเดียว แล้วหลวงพี่เสียค่าวีซ่าเท่าไรคะ อยากทราบเพราะเดี๋ยวเปรี้ยวจะไปทำวีซ่าบ้าง สวัสดีปีใหม่คะ